วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

ค้าชายแดนช่องทางอนาคตเศรษฐกิจไทย ในอาเซียน


ในการเปิด AEC แน่นอนว่าย่อมมีทั้งผลดีและผลเสียแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เชื่อว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องย่อมไม่ยินดีที่จะเห็นประเทศของตนเสียเปรียบแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เชื่อว่า ผู้เกี่ยวข้องจะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงไว้โดยเฉพาะในเรื่องของภาษา ที่เป็นตัวกลางหลักในการสื่อสารระหว่างกัน
แต่หากหันกลับมามองในเรื่องความได้เปรียบของประเทศไทยในตอนนี้สิ่งแรกก็คือ ความได้เปรียบของประเทศไทย ในด้านภูมิประเทศ เพราะประเทศไทยถือว่ามีทําเลที่ตั้งอยู่ในจุดซึ่งเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้มีพื้นที่เชื่อมต่อกับประเทศสมาชิกหลายประเทศ โดยทางด้านทิศเหนือ และตะวันตก ติดต่อกับเมียนมาร์ตะวันออกติดกับ สปป.ลาว และกัมพูชา ทิศใต้ติดกับมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ดีสําหรับด้านโลจิสติกส์ที่นอกจากจะเชื่อมต่อไปประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ยังเชื่อมไปยังประเทศที่ 3 อย่าง จีน อินเดีย เวียดนาม สิงคโปร์และประเทศอื่นๆ ได้อีกด้วย
ในขณะเดียวกันสินค้าหลายชนิดของประเทศไทย ก็เป็นที่ยอมรับจากทั้งในอาเซียนและทั่วโลกเพราะคุณภาพ มาตรฐาน ของสินค้าที่มีภาพลักษณ์ที่ดีทําให้ได้รับความนิยมในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลก หากได้เดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วจะเห็นสินค้าไทยหลายชนิดวางจําหน่ายอยู่ในชั้นวางของตามร้านค้าต่างๆ โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภคโดยเฉพาะอาหาร และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมมาก
สําหรับการค้าชายแดนของประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ (มาเลเซีย-เมียนมาร์-สปป.ลาว-กัมพูชา) คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1,100,000 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกที่สําคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์น้ำมันเบนซิน เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์และผ้าผืน เป็นต้น ขณะที่สินค้านําเข้าที่สําคัญของประเทศไทยได้แก่ก๊าซธรรมชาติโคกระบือสุกรแพะแกะสัตว์น้ำ ไม้ซุง พืชน้ำมันและผลิตภัณฑ์เป็นต้น
อีกทั้งจะเห็นได้ว่าทางรัฐบาลยังได้เลือกพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก ช่วงปี 2558-2559โดยเลือกประตูการค้าหลักที่มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนสูงสุดของประเทศไทย และอาจเรียกว่าเป็นเมืองหน้าด่านรองรับการเข้าสู่ AEC 5 พื้นที่การค้า จาก 12 พื้นที่ ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษได้แก่ ด่านศุลกากรแม่สอด อ.แม่สอด อ.พบพระ และ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ซึ่งติดกับประเทศเมียนมาร์ ด่านศุลกากรอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ และ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ติดกับประเทศกัมพูชา, ด่านศุลกากรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ติดกับประเทศกัมพูชา, ด่านศุลกากรมุกดาหาร อ.เมืองอ.หว้านใหญ่ และ อ.ดอนตาล ติดกับ สปป.ลาว และด่านศุลกากรสะเดา ด่านปาดังเบซาร์อ.สะเดาจ.สงขลา ซึ่งติดกับประเทศมาเลเซีย
โดยล่าสุดรัฐบาลและหอการค้าไทย เริ่มผลักดันด่านแม่สอด-เมียวดีเป็นจุดนําร่องไปบ้างแล้วและเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 ก็เป็นการเริ่มต้นที่ภาครัฐจะให้การสนับสนุนด้านการปฏิบัติของเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้จากข้อมูลของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ ADB ยังคาดว่าภูมิภาคอาเซียนจะมีเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมทั้งสิ้น 60 แห่ง โดยเขตเศรษฐกิจพิเศษประมาณ 54 แห่ง จะตั้งอยู่ในประเทศ สปป.ลาว และกัมพูชา


ที่มา: http://www.thai-aec.com/967#ixzz3xhwjzGpB

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

4 ตำแหน่งไฟแรงเฟร่อ ในสาขาโลจิสติกส์

เพื่อนๆทราบไหมครับว่า ตำแหน่งงานใดในสายงานโลจิสติกส์ที่ฮอตจนร้อนฉ่ามากที่สุดในปัจจุบัน เป็นที่ต้องการในตลาดสูง บางตำแหน่งกินเงินเดือนสูงถึง 120,000-160,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว มาดูกันว่า4ตำแหน่งงานในสายโลจิสติกส์ที่ว่า มีเพื่อนคนไหนคิดตรงกันบ้าง ตามมาเลยครับ


4 ตำแหน่งจตุรเทพแห่งวงการโลจิสติกส์

1. Solution design
ถือเป็นตำแหน่งทัพหน้าที่ต้องออกรบก่อนใคร

Solution design มีหน้าที่ศึกษาความต้องการด้านงานโลจิสติกส์ของลูกค้ามาแปรเปลี่ยนเป็นกระบวนการต่างๆที่เหมาะสม รวมถึงคำนวณต้นทุนที่ใช้เพื่อนำไปทำราคาเสนอขาย พูดคุยกับลูกค้าถึงจุดแข็งของกระบวนการที่คัดสรรมานำเสนอเพื่อให้ลูกค้ายอมรับ โดยบทบาทแล้วมักจะทำงานร่วมกับเซลล์ ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนในตอนเริ่มโปรเจคค์งานต่างๆ
คุณสมบัติ เป็นผู้ที่ชำนาญด้านเทคนิคกระบวนการ นำเสนอสื่อสารเก่ง ฉับไว


2. Project manager
ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ กุมอำนาจเบ็ดเสร็จต้องเขาล่ะ

Project manager เป็นคนสานต่อจาก solution design โดยนำ contract /agreement ที่ตกลงกับลูกค้า มาสร้าง จ้าง ดำเนินการตามข้อตกลง ภายใต้ข้อจำกัดงบประมาณต้นทุนที่ได้รับจาก solution design ภายในระยะเวลาที่ได้รับจากลูกค้าซึ่งโดยมากคือ 1เดือน 
project manager ต้องทำการจัดหาคน ฝึกอบรม สั่งซื้ออุปกรณ์และรถโฟล์กลิฟท์ ติดตั้งชั้นวางสินค้า ติดตั้งคอมพิวเตอร์และบาร์โค๊ด หาแพคเกจจิ้ง และทำสัญญารับเหมาที่เกี่ยวข้อง เขียน procedure ดำเนินงาน ประชุมกับลูกค้าเพื่ออัพเดตการดำเนินงานจนงานสำเร็จตามเป้าหมาย เรียกได้ว่า project manager เป็นซูเปอร์แมนดีๆนี่เอง
คุณสมบัติ เป็นผู้ชำนาญการควบคุมโปรเจค คุมคนได้ดี เข้มแข็ง เข้าใจลำดับงานในแผนกที่เกี่ยวข้องได้ดี


3. Logistics analyst
กุนซือข้างกายแม่ทัพ ผู้ควบคุมทิศทางลม 

Logistics analyst โดยตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอันดับหนึ่งของ project manager ทำงานแบบเดียวกันแต่เน้นไปด้านกระบวนการมากกว่าด้านคน สามารถประชุมย่อยได้ จัดอบรมพนักงาน ร่าง work instruction และจัดเตรียมอุปกรณ์การทำงานที่จำเป็นในโปรเจคค์ หากวัดกันแค่ความรู้ด้านเทคนิคกระบวนการและเทคโนโลยีแล้วตำแหน่งนี้ถือว่าไม่เป็นสองรองใครในบริษัทเลยทีเดียว
คุณสมบัติ เป็นคนคล่องแคล่ว เทคนิคดี ขยัน ถึกทน ความรู้เชิงเทคนิคกระบวนการยอดเยี่ยม


4. Warehouse manager
เจ้าเมืองผู้ควบคุมปราการที่แน่วแน่

Warehouse manager เป็นผู้สานต่อคนสุดท้าย รับไม้ส่งต่อจาก project manager ที่ส่งมอบงานช่วงเริ่มต้นให้ซึ่งพร้อมสรรพจากการเตรียมการเรื่องคน อุปกรณ์ วิธีการทำงาน มาดำเนินการในระยะยาวตามสัญญาที่มีกับลูกค้า เป็นผู้ควบคุมงานทั้งหมดภายใต้สัญญาที่ตกลงกันไว้และทำให้ได้กำไร ซึ่งต้องเกิดด้วยการปรับปรุงกระบวนการ สร้างKPI ปรับใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม แก้ปัญหาหน้างาน ปัญหาเรื่องคน เพื่อให้งานดำเนินไปได้ด้วยดี จัดเป็นงานที่ครบเครื่องเบ็ดเสร็จ ต้องอาศัยความอดทนและทีมเวิคอย่างมาก
คุณสมบัติ ชำนาญงานปรับปรุง บริหารคนและกิจการได้ดี มีความเป็นผู้นำสูง หนักแน่น


ทั้งหมดเป็นตำแหน่งงานในสายโลจิสติกส์ที่ฮอตฮิตในยุคนี้ เป็นเป้าหมายของมนุษย์โลจิสติกส์หลายๆคนตอนนี้ แล้วเพื่อนๆล่ะครับมีเป้าหมายอย่างไรและดำเนินการตามเป้าหมายไปแล้วอย่างไร แชร์กันได้ที่ piriyaro@gmail.com ครับ


3 เทรนด์คลังสินค้าไทยปี 2016

เข้าสู่ปีศักราชใหม่อย่างเต็มตัวสำหรับปีแห่งการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักสมกับปีลิง ในโอกาสนี้ขอพาพวกเรามารู้จักกับเทรนด์ของงานคลังสินค้าในปีนี้ที่หลายธุรกิจกำลังลงทุนเพื่อรองรับความต้องการในภาคธุรกิจกันอย่างล้นหลาม ส่วนจะมีอะไรบ้างติดตามไปพร้อมกันเลยครับ

เทรนด์คลังสินค้าไทยปี 2016

1. คลังกระจายสินค้าระดับภูมิภาคอาเซียน
ตามที่เรารู้กันว่าเขตการค้าเสรีอาเซียนได้เริ่มเปิดฉากขึ้นในปี 2016 แล้ว ดังนั้นเพื่อรองรับการหลั่งไหลของสินค้าทั่วทั้งภูมิภาคที่จะผ่านและพักสินค้าที่ไทยนั้น เราจำเป็นต้องมีคลังสินค้าที่มีความพร้อม ทั้งขนาดพื้นที่ พนักงาน ระบบ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ นอกจากนั้นด้านการบริหารจัดการเพื่อประสานงานในประเทศและต่างประเทศ ต้องมีความเป็นมืออาชีพ สากล และสร้างเครือข่ายร่วมมือที่ได้มาตรฐานเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทโลจิสติกส์หลายเจ้าได้เข้าลงทุนสร้างคลังในพื้นที่ภูมิศาสตร์ในหลายจังหวัด เช่น อุดรฯ ขอนแก่น ตราด มุกดาหาร อันเป็นจุดที่สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านสามารถลำเลียงสินค้ามาพัก หรือเปลี่ยนถ่ายได้โดยสะดวก สำหรับใครที่สนใจรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็สามารถติดตามได้ในบทความในโอกาสต่อไปครับ

2. คลังสินค้าเพื่อผู้ประกอบการออนไลน์

ยุคสมัยนี้ใครๆก็เปิดร้านขายของผ่านทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม กันมาก เหตุผลก็เพราะความสะดวกในการเข้าถึงลูกค้าและต้นทุนที่ต่ำกว่าการเปิดร้านจริง อย่างไรก็ตามปัญหาหนักอกของแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายก็คือการจัดการกับออเดอร์ที่เข้ามามากมายในแต่ละวัน ลองคิดดูว่าหากมีลูกค้าวันละร้อย-สองร้อยคน ลำพังแค่ตอบคำถามเรื่องสินค้าก็แทบหมดเวลาแล้ว และหากต้องมาจัดการเรื่องแพคสินค้า ส่งสินค้า ติดสลาก เก็บสต้อค สร้างบัญชีลูกค้าปัจจุบัน รับของคืน เปลี่ยนของใหม่ ส่งผิดส่งเกินส่งขาดส่งสลับสี โอยยย..ไม่หวาดไม่ไหว สู้หามืออาชีพมารับผิดชอบไป ยอมหักกำไรบางส่วนมาจ้างทำ สบายใจกว่า และในปัจจุบันเจ้าที่แข่งทำอยู่ก็ทำราคาได้สบายกระเป๋าขึ้นและมีหลายเจ้าให้เลือกเปรียบเทียบกัน แพคเกจมีทั้งบริการเก็บสินค้า และจัดส่ง หรือจะเลือกเพียงจัดส่งก็ทำได้ อย่างเจ้า K สีส้มก็มีบริการส่งทั่วประเทศ หรือ กทม แบบวันเดียวถึง ในราคาที่ไปรษณีย์ไทยยังหนาว
สำหรับรายชื่อและเบอร์ติดต่อผู้ให้บริการด้านนี้จะทยอยลงให้หลังได้รับอนุญาตจากทางบริษัทนะครับ แล้วจะอัพเดตให้ทราบกัน

3. คลังสินค้าอาหารและห้องเย็น

สังเกตไหมครับว่าไม่ว่าธุรกิจไทยจะเปลี่ยนถ่ายเป็นอะไร ไม่ว่ายานยนต์ อิเลคโทรนิค พลังงาน แต่ธุรกิจหนึ่งยังยืนหยัดอย่างมั่นคงคู่มาตลอดในไทยก็คือธุรกิจอาหาร ที่เป็นเช่นนี้เพราะไทยเราเป็นประเทศเกษตร ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ยังชีพมาแต่โบราณ ก่อนพัฒนามาเป็นอุตสาหกรรมเกษตร ภาคครัวเรือนก็มีตำหรับอาหารไทยสร้างชื่อให้ประเทศมานับร้อยปี เรียกได้ว่าไทยเป็นประเทศที่พื้นฐานด้านอาหารแข็งแกร่งลำดับต้นๆของโลก มีการผลักดันการเป็น ครัวของโลก ซึ่งยากที่จะมีประเทศใดมาทำแข่งได้
ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยที่กำลังขยับตัวพัฒนาด้านอาหารไปอีกขั้นในโอกาสรองรับวัตถุดิบใหม่ๆจากทั่วทั้งภูมิภาคเพื่อนำมาผลิตแปรรูปในไทยที่มีปัจจัยด้านอุตสาหกรรมอาหารครบถ้วนสมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องมีคลังที่เก็บสินค้าวัตถุดิบเหล่านั้นไว้เพื่อรับการขยายตัว
สินค้าอาหารรวมถึงเครื่องปรุงรสต่างๆมีมาตรฐานในการรักษาสภาพที่ต่างจากสินค้าทั่วไป กล่าวคือต้องอาศัยห้องเย็นในอุณหภูมิต่างๆและควบคุมความสะอาดและเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด ปัจจุบันคลังห้องเย็นเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากเนื่องจากคลาดแคลนเพราะต้องลงทุนเยอะกว่าคลังสินค้าทั่วไปนั่นเอง

จากที่กล่าวมาทั้ง 3 รูปแบบ พวกเราคงเห็นภาพการทำธุรกิจคลังสินค้าที่ฮอตฮิตในปีนี้กันแล้ว อย่าลืมนำไปปรับใช้นะครับ เรื่องธุรกิจใครรู้และขยับตัวเร็วกว่า มักเป็นผู้ครอบครองโอกาสครับ ขอให้โชคดี.






วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

5 เคล็ดลับในการมัดใจลูกค้า ของเหล่ามนุษย์โลจิสติกส์

   ยินดีต้อนรับเข้าสู่ยุค AEC อย่างเต็มรูปแบบในปี 2559 นี้ ซึ่งแน่นอนว่าในแง่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก็ย่อมเข้าไปเกี่ยวข้องกับ AEC อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเมื่อพรมแดนเปิด การเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการผ่านพรมแดนนั้น ก็ต้องเพิ่มมากขึ้นทั้งในด้านปริมาณและความหลากหลายมากเป็นเงาตามตัว
ในฐานะที่ผู้ประกอบการและสมาชิกทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแวดวงโลจิสติกส์นี้ก็ย่อมต้องปรับตัวให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณดังกล่าว ซึ่งวันนี้ผมมีเคล็ดลับดีๆจากประสบการณ์จริงมาแชร์กันว่า เคล็ดลับที่ทำให้เรามัดใจลูกค้าอยู่หมัด ไม่เกิดปัญหาตามหลัง ได้ทั้งผลงานและคำชม สร้างพื้นฐานที่ดีในหน้าที่การงานนั้นมีอะไรบ้าง พร้อมแล้ว ตามมาเลยครับ





5 เคล็ดลับมัดใจลูกค้าในงานโลจิสติกส์

1. ความรวดเร็วในการสื่อสาร 
    เพราะงานโลจิสติกส์เกี่ยวข้องกับหลายปาร์ตี้ในการทำงานมาก เช่น ลูกค้า รถส่งของ กรมศุลกากร ฝ่ายผลิต เป็นต้น ดังนั้น ในการรับมือกับคำถามจากลูกค้าที่กังวลใจเกี่ยวกับสถานะของสินค้าว่าเป็นอย่างไร อยู่ในขั้นตอนไหน ล่าช้ากว่ากำหนดหรือเปล่า จึงเป็นเรื่องสำคัญ จึงควรมีการรวมศูนย์ข้อมูลหรือเตรียมข้อมูลให้พร้อมในทุกวัน และส่งอัพเดตสถานะงานสินค้าให้ลูกค้าทราบ การชิงแจ้งลูกค้าก่อนจะถูกทวงถามจะช่วยลดความจุกจิกในการถามลงได้มาก ซึ่งเป็นการลดงานซ้ำซ้อนของเราไปในตัวด้วย รู้อย่างนี้แล้ว เราต้องกลับไปดูหน้างานที่ทำอยู่ว่า มีความพร้อมแค่ไหนในการสื่อสารกับลูกค้า

เคล็ดลับ ใช้ระบบเช่น ERP ในการรวบรวมข้อมูลไว้บนปลายนิ้ว, จัดทำ daily shipment report ส่งทุกเช้า

2. ความมีมนุษย์สัมพันธ์ที่วิเศษ
    ดังกล่าวข้างต้นว่า งานโลจิสติกส์เกี่ยวข้องกับคนหลายส่วน คงเป็นการยากที่เราจะพูดกับลูกค้าที แล้วหันมาคุยกับคนขับรถส่งของด้วยเสียงคนละโทน! ดังนั้น การใช้มนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับทุกคนนั้นนอกจากจะทำให้เราสามารถจัดการกับตัวเองได้ง่ายแล้ว ยังสามารถโน้มน้าวใจคนฟังได้ดีด้วย อย่าลืมว่าไม่มีใครหรอกที่อยากยอมตามคนพูดจาไม่ดีกับเรา ไม่ว่าจะลูกค้าหรือลูกน้องเราก็ตาม

เคล็ดลับ ก่อนพูดคิดเสมอว่า อีกฝ่ายเป็นเพื่อนเราในอนาคต เพราะมีไม่น้อยที่ออกจากบริษัทไปก็ไปร่วมงานกันอีกที่ เพราะงานมันอยู่ในแวดวงเดียวกัน อันนี้เรื่องจริง

3. การรู้จักทำงานเชิงรุก
    ลองสังเกตคนที่ทำงานแล้วมักมีปัญหาดู จะพบว่าคนเหล่านั้นมักมีข้อเสียที่ไม่ค่อยกระตือรือล้น ชอบรอให้จวนตัวจึงค่อยทำ ชอบรอลูกค้าบ่นแล้วค่อบขยับตัว ดังนั้น เราจึงควรหลีกเลี่ยงการถูกเร่งรัดงานด้วยการชิงทำตัดหน้าเสียก่อน และเมื่อลูกค้าได้รับส่งงานจากเราโดยไม่ต้องเหนื่อยร้องขอหรือร้องเรียน สุดท้ายก็จะชื่นชอบและไม่พยายามสร้างปัญหาด้านอื่นเพิ่ม เพราะไม่อยากเสียงานที่เราทำได้ดีอยู่ไป อย่าลืมว่า งานที่เราทำก็คืองานที่เขารับผิดชอบนั่นแหละ ใครๆก็ไม่อยากให้มีปัญหา จริงไหม

เคล็ดลับ เมื่อมีช่วงเวลาว่างในแต่ละวัน ให้เอางานในอนาคตมาทำ เช่นพิมพ์บางส่วนของรายงานเตรียมไว้ พอถึงกำหนดต้องส่งงานก็ส่งได้ตรงเวลา หรือชิงส่งก่อนเวลาสักเล็กน้อย แค่นี้ลูกค้าก็แฮปปี้สุดๆ

4. หาต้นแบบดีๆให้ตัวเอง
    บางครั้ง การจะทำอะไรดีๆก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่บ้างเพราะเรามองภาพไม่ออกว่าแบบไหนจึงเรียกว่าดี ลองสังเกตคนที่ทำงานที่จัดเป็นดาวรุ่งหรือตัวท๊อปทั้งหลาย ว่าเขาเน้นการปฏิบัติตัวอย่างไรกับลูกค้า จึงได้รับคำชื่นชมมากมาย บางทีเราอาจได้พบว่า คนที่ประสบความสำเร็จมากนั้นก็มีอะไรหลายอย่างที่เหมือนเราก็เป็นได้ และถ้าคนเหล่านั้นกินตำแหน่งสูงๆรายได้ดีๆ ก็เป็นไปได้ที่เราจะได้รับโอกาสแบบนั้นบ้างด้วยการปฏิบัติตัวแบบเดียวกัน เป้าหมายมีไว้พุ่งชน!

เคล็ดลับ ตัวอย่างที่ดีที่บริษัทยอมรับในฝีมือและได้เงินเดือนสูงกว่าเรา และใกล้ชิดเราที่สุด ก็คือหัวหน้าเรานั่นเอง จริงไหม


5. การวางแผนให้กับชีวิตการทำงาน
    มีคำกล่าวว่า ชาวนาปลูกข้าวทั้งปีเพื่อหากำไรให้โรงสี แล้วโรงสีจึงเอากำไรที่มากกว่าไปมอบให้พ่อค้าคนกลางที่ทำงานปีละไม่กี่สัปดาห์ ... คำกล่าวนี้ไม่มีถูกหรือผิด อยู่ที่เรารู้จักใช้คุณสมบัติของตัวเองให้เกิดประโยชน์แก่ตน กล่าวคือ เราเลือกจะเป็นคนที่ได้รับคำชื่นชมอย่างชาวนา หรือ คนที่รู้จักสร้างกำไรให้ได้มากอย่างพ่อค้า การรู้จักวางแผนให้ชีวิตมีทิศทางตามความถนัดความชอบของเราเอง ย่อมสร้างแรงขับให้เกิดผลงานได้ดีกว่า ซึ่งจะกลายเป็น performance ในที่สุด ใครถนัดคอมก็หาสูตรและฟอร์แมตชีตที่เหมาะสมเพื่อลดเวลาคีย์ข้อมูล คนขับรถก็เรียนรู้แผนที่และทางลัด คนติดต่อศุลการกรก็เรียนรู้ว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนชอบงานแบบไหนจึงให้ผ่านได้ง่าย เป็นต้น

เคล็ดลับ คิดเป้าหมายให้ตนเองเกี่ยวกับเรื่องงานเป็นรายไตรมาสไป เริ่มจากงานตรงหน้าตอนนี้!

นี่เป็นเคล็ดที่เหล่าผู้ที่ประสบผลสำเร็จได้ถ่ายทอดมา หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะโดนใจพวกเรานะครับ หากสงสัยหรือต้องการเพิ่มเติมสิ่งใด สามารถพูดคุยกันได้ ทาง piriyaro@gmail.com