วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

3 เทรนด์คลังสินค้าไทยปี 2016

เข้าสู่ปีศักราชใหม่อย่างเต็มตัวสำหรับปีแห่งการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักสมกับปีลิง ในโอกาสนี้ขอพาพวกเรามารู้จักกับเทรนด์ของงานคลังสินค้าในปีนี้ที่หลายธุรกิจกำลังลงทุนเพื่อรองรับความต้องการในภาคธุรกิจกันอย่างล้นหลาม ส่วนจะมีอะไรบ้างติดตามไปพร้อมกันเลยครับ

เทรนด์คลังสินค้าไทยปี 2016

1. คลังกระจายสินค้าระดับภูมิภาคอาเซียน
ตามที่เรารู้กันว่าเขตการค้าเสรีอาเซียนได้เริ่มเปิดฉากขึ้นในปี 2016 แล้ว ดังนั้นเพื่อรองรับการหลั่งไหลของสินค้าทั่วทั้งภูมิภาคที่จะผ่านและพักสินค้าที่ไทยนั้น เราจำเป็นต้องมีคลังสินค้าที่มีความพร้อม ทั้งขนาดพื้นที่ พนักงาน ระบบ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ นอกจากนั้นด้านการบริหารจัดการเพื่อประสานงานในประเทศและต่างประเทศ ต้องมีความเป็นมืออาชีพ สากล และสร้างเครือข่ายร่วมมือที่ได้มาตรฐานเช่นกัน ปัจจุบันบริษัทโลจิสติกส์หลายเจ้าได้เข้าลงทุนสร้างคลังในพื้นที่ภูมิศาสตร์ในหลายจังหวัด เช่น อุดรฯ ขอนแก่น ตราด มุกดาหาร อันเป็นจุดที่สินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านสามารถลำเลียงสินค้ามาพัก หรือเปลี่ยนถ่ายได้โดยสะดวก สำหรับใครที่สนใจรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็สามารถติดตามได้ในบทความในโอกาสต่อไปครับ

2. คลังสินค้าเพื่อผู้ประกอบการออนไลน์

ยุคสมัยนี้ใครๆก็เปิดร้านขายของผ่านทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม กันมาก เหตุผลก็เพราะความสะดวกในการเข้าถึงลูกค้าและต้นทุนที่ต่ำกว่าการเปิดร้านจริง อย่างไรก็ตามปัญหาหนักอกของแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายก็คือการจัดการกับออเดอร์ที่เข้ามามากมายในแต่ละวัน ลองคิดดูว่าหากมีลูกค้าวันละร้อย-สองร้อยคน ลำพังแค่ตอบคำถามเรื่องสินค้าก็แทบหมดเวลาแล้ว และหากต้องมาจัดการเรื่องแพคสินค้า ส่งสินค้า ติดสลาก เก็บสต้อค สร้างบัญชีลูกค้าปัจจุบัน รับของคืน เปลี่ยนของใหม่ ส่งผิดส่งเกินส่งขาดส่งสลับสี โอยยย..ไม่หวาดไม่ไหว สู้หามืออาชีพมารับผิดชอบไป ยอมหักกำไรบางส่วนมาจ้างทำ สบายใจกว่า และในปัจจุบันเจ้าที่แข่งทำอยู่ก็ทำราคาได้สบายกระเป๋าขึ้นและมีหลายเจ้าให้เลือกเปรียบเทียบกัน แพคเกจมีทั้งบริการเก็บสินค้า และจัดส่ง หรือจะเลือกเพียงจัดส่งก็ทำได้ อย่างเจ้า K สีส้มก็มีบริการส่งทั่วประเทศ หรือ กทม แบบวันเดียวถึง ในราคาที่ไปรษณีย์ไทยยังหนาว
สำหรับรายชื่อและเบอร์ติดต่อผู้ให้บริการด้านนี้จะทยอยลงให้หลังได้รับอนุญาตจากทางบริษัทนะครับ แล้วจะอัพเดตให้ทราบกัน

3. คลังสินค้าอาหารและห้องเย็น

สังเกตไหมครับว่าไม่ว่าธุรกิจไทยจะเปลี่ยนถ่ายเป็นอะไร ไม่ว่ายานยนต์ อิเลคโทรนิค พลังงาน แต่ธุรกิจหนึ่งยังยืนหยัดอย่างมั่นคงคู่มาตลอดในไทยก็คือธุรกิจอาหาร ที่เป็นเช่นนี้เพราะไทยเราเป็นประเทศเกษตร ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ยังชีพมาแต่โบราณ ก่อนพัฒนามาเป็นอุตสาหกรรมเกษตร ภาคครัวเรือนก็มีตำหรับอาหารไทยสร้างชื่อให้ประเทศมานับร้อยปี เรียกได้ว่าไทยเป็นประเทศที่พื้นฐานด้านอาหารแข็งแกร่งลำดับต้นๆของโลก มีการผลักดันการเป็น ครัวของโลก ซึ่งยากที่จะมีประเทศใดมาทำแข่งได้
ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยที่กำลังขยับตัวพัฒนาด้านอาหารไปอีกขั้นในโอกาสรองรับวัตถุดิบใหม่ๆจากทั่วทั้งภูมิภาคเพื่อนำมาผลิตแปรรูปในไทยที่มีปัจจัยด้านอุตสาหกรรมอาหารครบถ้วนสมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องมีคลังที่เก็บสินค้าวัตถุดิบเหล่านั้นไว้เพื่อรับการขยายตัว
สินค้าอาหารรวมถึงเครื่องปรุงรสต่างๆมีมาตรฐานในการรักษาสภาพที่ต่างจากสินค้าทั่วไป กล่าวคือต้องอาศัยห้องเย็นในอุณหภูมิต่างๆและควบคุมความสะอาดและเชื้อโรคอย่างเคร่งครัด ปัจจุบันคลังห้องเย็นเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากเนื่องจากคลาดแคลนเพราะต้องลงทุนเยอะกว่าคลังสินค้าทั่วไปนั่นเอง

จากที่กล่าวมาทั้ง 3 รูปแบบ พวกเราคงเห็นภาพการทำธุรกิจคลังสินค้าที่ฮอตฮิตในปีนี้กันแล้ว อย่าลืมนำไปปรับใช้นะครับ เรื่องธุรกิจใครรู้และขยับตัวเร็วกว่า มักเป็นผู้ครอบครองโอกาสครับ ขอให้โชคดี.






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น